วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

คลิปวิดีโอ - นิทาน ก - ฮ ---MthA! Video--- แหล่งรวมคลิปวีดีโอ video clip...

นิทานสอนใจ : มะม่วงสื่อความกตัญญู

"ความกตัญญู" อยู่คู่โลกมานานแสนนานจริงๆ มีเรื่องราวมากมายที่เป็นตัวอย่างของความกตัญญู ดังเช่นเรื่องราวของสัตว์ตัวหนึ่งที่สามารถรับรู้ถึง ความกตัญญูได้

จาก เรื่องเล่าของนกแขกเต้าที่มีพละกำลังมากตัวหนึ่ง ได้แสดงความกตัญญูต่อพระราชาที่ได้ชุบเลี้ยงมา ฝ่าอันตรายไปนำมะม่วง "อัพภันดร" จากป่าหิมพานต์มาถวายพระราชเทวี เพราะทรงทราบว่ามะม่วง "อัพภันดร" นั้นเสวยแล้วจะทรงงดงามขึ้น สุขภาพดียิ่งขึ้น และถ้าหวังได้ราชโอรสเป็นพระเจ้าจักรพรรดิก็จะสมหวัง นกแขกเต้านำมะม่วงที่อยู่ในบริเวณที่เจ้ายักษ์คอยเฝ้ าอยู่มาได้โดยไม่มี อันตราย ซึ่งเป็นเพราะเจ้ายักษ์ซึ้งในความกตัญญูของนกแขกเต้า นอกจากจะไม่ทำร้ายนกแขกเต้าแล้ว ยังชี้ทางให้ทำงานได้สำเร็จด้วย

นั่นเป็นเพียงเรื่องเล่าที่คอยสอนและเตือนสติให้ทุกค นระลึกถึงผู้มี ผระคุณ ทีนี้ลองมาฟังเรื่องราวเมื่อสองพันกว่าปี เมื่อสมัยพุทธกาลกันบ้าง

เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จมายังกรุงกบิลพัสด์ เพื่อโปรดพระญาตินั้น บรรดาพระญาติต่างก็ตามออกมาผนวชกันจำนวนมาก รวมทั้งพระนางพิมพามเหสี และพระราหุลโอรส สำหรับหระราชหุลนั้นได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณรองค์แรกขอ งพระพุทธศาสนา สามเณรราหุลนั้นเป็นผู้มีความกตัญญูจึงได้เฝ้าติดตาม และดูแลพระภิกษุณีผู้ เป็นมารดาตลอดมา

วันหนึ่งพระนางพิมพาเกิดอาพาธด้วยโรคลมเสียดท้อง ซึ่งเป็นโรคประจำของพระองค์เอง พระราหุลทรงทูลถามถึงวิธีการรักษา พระนางจึงบอกว่า "หาได้ฉันน้ำที่คั้นมาจากผลมะม่วง อาการก็จะทุเลาลงได้" พระราหุลจึงรับอาสาจะไปหาน้ำมะม่วงมาให้ แต่เนื่องจากขณะนั้นเป็นเวลาที่ไม่สามารถจะหาน้ำมะม่ วงมาได้ด้วยตัวเอง

พระราหุลจึงออกเดินทางไปหาพระสารีบุตรซึ่งเป็นพระอุป ัชฌาย์ เมื่อพระสารีบุตรเห็นพระราหุลมีหน้าตาเศร้าหมองก็ไต่ ถามถึงสาเหตุ ซึ่งพระราหุลก็เล่าให้ฟังถึงเรื่องราวดังกล่าว

ครั้นรุ่งเช้าพระสารีบุตรเข้าไปบิณฑบาตภายในวังของพร ะเจ้าปเสนทิโกศล พอดีมีชาวบ้านนำมาถวายพระเจ้าปเสนทิโกศล ซึ่งพระองค์ก็ได้ทรงคั้นมะม่วงนั้นถวายพระสารีบบุตร เมื่อพระสารีบุตรรับบิณฑบาตแล้วจึงเดินออกไปจากวัง โดยไม่ได้ฉันน้ำมะม่วงนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสงสัยว่า "ทำไมพระสารีบุตรไม่ฉันน้ำมะม่วงที่ทรงคั้นถวาย แต่ไม่กล้ารับสั่งถามตรงๆ จึงให้คนติดตามพระสารีบุตรไป"

ผู้ติดตามนั้นเห็นพระสารีบุตรนำน้ำมะม่วงไปให้พระราห ุล เพื่อให้พระราหุลนำไปให้พระมารดาฉันแก้อาการป่วย จึงนำความไปกราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศล พระองค์ทรงสดับฟังดังนั้น เกิดความคิดว่า หากพระพุทธเจ้าไม่ทรงออกผนวช พระราชวงศ์ทั้งหมดคงไม่ได้ละการเสวยสุขทางโลกมาอยู่ใ ต้ร่มเงาพระธรรม และมีความเป็นอยู่อย่างลำบากเช่นนี้ และคิดต่อไปว่าถ้าหากพระศาสดาไม่ออกผนวชก็จะไม่ได้เป ็นพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้าเช่นนี้ แต่จะต้องเป็นเจ้าจักรพรรดิแทน และพระเจ้าปเสนทิโกศลก็คงเป็นข้าราชบริวาทที่รับใช้อ ยู่ในวังของพระ จักรพรรดินั้น

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็หมายถึงว่า การ บวชของพระพุทธเจ้านั้นทรงเป็นประโยชน์ต่อพระเจ้าปเสน ทิโกศลอย่างมาก พระองค์ทรงตั้งพระทัยว่าจะทำนุบำรุงพระราชวงศ์ที่ทรง ออกผนวชทั้งหมดนี้ให้ เป็นสุขสืบไป นับว่าเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาของพระราหุลทำให ้เกิดผลดีตามมาเกินคาด หมายทีเดียว

เรื่อง ราวของพระเจ้าปเสนทิโกศลที่หันมาทำนุบำรุงพระญาติและ พระพุทธศาสนา เพราะซึ้งใจในความกตัญญูของพระราหุลและพระสารีบุตรที ่รู้จักตอบแทนผู้มีพระ คุณ แม้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีมาแล้วก ็ตาม แต่ถ้าเราทุกคนตั้งใจอ่านและสังเกตให้ดีๆ จะรู้ว่าเรื่องราวอันดีงามของความกตัญญูเป็นความงามท ี่หาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ เพราะเป็นความงามที่คนๆ หนึ่งรู้จักตอบแทนผู้ที่มีพระคุณกับตน

แต่ ในปัจจุบันยิ่งถ้าใช้ตนเองเป็นเครื่องทดสอบก็จะทราบว ่า ความกตัญญูต่อผู้ที่มีพระคุณนั้น สามารถเป็นเกราะคุ้มครองภัยอันตรายได้แท้จริงไม่ว่าเ ราจะอยู่ที่ไหนย่อมมีคน สรรเสริญเพราะความงามของคำว่า "กตัญญูกตเวทิตา" เสมอ __________________